15 ที่เที่ยวยุโรป หน้าร้อน เมืองสวย ชิลตลอดซัมเมอร์
เสน่ห์ของ ยุโรป นั้นมีตลอดทุกช่วงเวลาของปีเลยค่ะ แต่ถ้าอยากเที่ยวชิลๆ ท่ามกลางอากาศแสนอบอุ่นล่ะก็ ยังไงต้องไม่พลาด ฤดูร้อน เพราะฤดูนี้เปรียบเสมือนเป็นไฮซีซั่นของยุโรปเลยทีเดียว ใครที่มีแพลน เที่ยวยุโรป ในช่วงหน้าร้อนนี้ ตามเรามาที่ 15 ที่เที่ยวยุโรป หน้าร้อน กันค่ะ เชื่อว่าทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับบ้านเมืองสวยๆ และบรรยากาศสดใสตลอดซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน
1. ซานโตรินี Santorini
เที่ยวยุโรปช่วงหน้าร้อน ยังไงก็พลาด ซานโตรินี (Santorini) ไปไม่ได้ค่ะ เพราะที่นี่ถือเป็นเกาะสวรรค์ของ ประเทศกรีซ (Greece) เลยก็ว่าได้ ด้วยความงดงามของทัศนียภาพ และภาพของอาคารบ้านเรือนสีขาวที่ตั้งไล่เรียงลงมาจากไหล่เขา ตัดกับสีฟ้าสดใสของทะเลอีเจียน ทำให้ใครๆ ก็อยากมาชมความงามของที่นี่สักครั้ง ซานโตรินีประกอบไปด้วยหมู่บ้านเก่าแก่ต่างๆ หลายแห่ง เช่น ฟีร่า (Fira) เอีย (Oia) ธีรา (Thira) พีร์กอส (Pyrgos) เป็นต้น แต่ละเกาะต่างก็มีเสน่ห์ และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แค่นึกภาพว่าเราได้ไปสูดกลิ่นอายทะเลท่ามกลางหมู่บ้านแสนสวยเหล่านี้ก็ฟินสุดๆ ไปเลย
2. เกาะซาคินทอส Zakynthos
นอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว กรีซยังขึ้นชื่อในเรื่องของชายหาดที่สวยงามติดอันดับโลกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ หาดนาวาจีโอ (Navagio Beach) บน เกาะซาคินทอส (Zakynthos) นั่นเองค่ะ ความงดงามของหาดทรายสีขาว โอบล้อมไปด้วยผาหินสูงใหญ่ และน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลก แถมยังกลายเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของซีรีส์เกาหลีชื่อดังอย่าง Descendants of the Sun (2016) อีกด้วย ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศสดใสของท้องทะเลแบบเน้นๆ จะพลาดหาดนาวาจีโอแห่งนี้ไปไม่ได้เลย
3. ดูบรอฟนิก Dubrovnik
ไปเยือนเมืองมรดกโลกกันบ้างค่ะ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติกทางตอนใต้ของ โครเอเชีย (Croatia) ภายในย่านเมืองเก่าของดูบอฟนิกเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ แต่ละแห่งต่างมีอายุหลายร้อยปีตลอดไปจนถึงพันปีเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ดูบรอฟนิกได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979 และด้วยความงามของบ้านเรือนที่สอดคล้องไปกับทัศนียภาพอันกว้างไกลของท้องทะเล จึงทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามให้เป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” ค่ะ
4. กอเตอร์ Kortor
กอเตอร์ (Kotor) เมืองสวยของ มอนเตเนโกร (Montenegro) ที่สามารถเดินทางจากดูบรอฟนิกได้ด้วยทางรถยนต์ค่ะ เมื่อมาถึงแล้ว แนะนำให้ขึ้นชมวิวสวยๆ บนป้อมปราการ San Giovanni’s Fortress เราก็จะได้เห็นวิวของ อ่าวกอเตอร์ (Bay of Kotor) พร้อมกับบ้านเมืองริมชายฝั่ง และเทือกเขาสูงที่โอบล้อมได้แบบเต็มๆ ตา และแม้กอเตอร์จะมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นในแต่ละปี แต่ก็ยังไม่ทำให้เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ลดน้อยลงไป
5. ปิราน Piran
ปิราน (Piran) หนึ่งในเมืองสวยของ ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia) ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ไฮไลท์ของปิรานเห็นทีจะเป็น จัตุรัสทาร์ทินี (Tartini Square) จัตุรัสหลากสีกลางเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ และหอระฆังสถาปัตยกรรม Venetian สะท้อนถึงการที่เมืองแห่งนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของ เวนิส (Venice) ระหว่างปี ค.ศ. 1283-1797 รวมระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 500 ปีได้ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1991 ที่ปิรานได้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของสโลวีเนียโดยสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่ยังหลงเหลือกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียนอยู่ค่ะ
6. ชิงเคว เทเร Cinque Terre
เติม vitamin sea กันต่อที่ ชิงเคว เทเร (Cinque Terre) เมืองทะเลชื่อดังของ อิตาลี (Italy) ที่ประกอบไปด้วยหมู่บ้านสีสันสดใสทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ Monterosso , Vernazza , Corniglia , Manarola และ Riomaggiore แต่ละหมู่บ้านต่างก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยยังคงเสน่ห์ของบ้านเรือนสีสันฉูดฉาด รับกับน้ำทะเลสีสวยได้อย่างลงตัว ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ร้อนและไม่หนาวมากเกินไป จึงทำให้เหมาะกับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้อนค่ะ จะได้เล่นทะเลกันแบบชิลๆ
7. ชายฝั่งอมาลฟี Amalfi Coasts
เที่ยวอิตาลีช่วงหน้าร้อนทั้งที ยังไงก็ต้องไปเช็คอินที่ ชายฝั่งอมาลฟี (Amalfi Coast) และหมู่บ้านต่างๆ ที่เรียงรายตลอดแนวชายฝั่ง นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีครบทั้งความหลากหลายของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมที่สวยงามจริงๆ ค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยหากที่นี่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หากเดินเข้าไปในหมู่บ้านต่างๆ เราก็จะเห็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม และร้านรวงต่างๆ มากมาย รวมถึงเครื่องชามเซรามิกสีสันจัดจ้านบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของหมู่บ้านในแถบนี้อย่างชัดเจน แถมยังมี Limoncello liqueur ที่ทำจาก Stusato Amalfitano สายพันธุ์มะนาวที่เพาะปลูกเฉพาะที่ริมชายฝั่งอมาลฟีให้เราได้ลองชิมด้วย
8. โพรวองซ์ Provence
เที่ยว แคว้นโพรวองซ์ (Provence) ในช่วงฤดูร้อนแล้วก็อย่าลืมไปถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลาง ทุ่งลาเวนเดอร์ กันนะคะ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน-สิงหาคมเลย โดยเฉพาะที่ Valensole Plateau ทุ่งลาเวนเดอร์อันแสนกว้างใหญ่ในเมือง Valensole ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก มองออกไปก็จะเห็นทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงละมุนเรียงตัวออกไปจนหาที่สิ้นสุดไม่ได้ ถ้าได้ไปเดินเล่นท่ามกลางทุ่งก็คงฟินไม่น้อยเลย นอกจากลาเวนเดอร์แล้ว แคว้นโพรวองซ์ยังมีเมืองสวยๆ อีกหลายแห่งที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่าง อาวีญง (Avignon) และ กราซ (Grasse) รวมถึงทิวทัศน์ของสวยงามของท้องทะเลทางชายฝั่ง เฟรนช์ ริเวียร่า (French Riviera) อย่าง เมืองมาร์แซย์ (Marseilles), แซ็ง-ทรอเป (Saint-Tropez) และ Villefranche-sur-Mer เป็นต้น แต่ละเมืองต่างก็มีบรรยากาศแสนสดใส และวิวสวยๆ ของท้องทะเล เหมาะกับการไปพักตากอากาศในช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างมาก
9. นีซ Nice
นีซ (Nice) เป็นเมืองหลวงของ ชายฝั่งโกตดาซูร์ (Côte d’Azur) หรือที่คุ้นเคยในอีกชื่อว่า เฟรนช์ ริเวียร่า (French Riviera) และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของ ประเทศฝรั่งเศส (France) นับเป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะมาสัมผัสความงดงามของบ้านเมือง และชายหาดสวยๆ สักครั้ง กิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยคือ การมาเดินเล่นที่ ถนนเดส ซ็องเกรส์ (Promenade des Anglais) ถนนเลียบชายหาดชื่อดังที่สามารถมองเห็นชายหาดสีขาวและน้ำทะเลสีฟ้าได้อย่างใกล้ชิด พร้อมกับร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมชายหาด ถ้าอยากชมวิวสวยๆ ก็ต้องไปที่ คาสเซิล ฮิลล์ (Castle Hill) จุดชมวิวหลักที่สามารถชมวิวนีซได้จากมุมสูง งานนี้อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปขึ้นไปถ่ายรูปสวยๆ ด้วยนะ
10. อะโซร์ส Azores
เที่ยว “ฮาวายแห่งยุโรป” ที่ อะโซร์ส (Azores) หมู่เกาะทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของ โปรตุเกส (Portugal) โดดเด่นด้วยทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเล และขุนเขา โดยมีไฮไลท์เป็น เซเท ซิดาเดส (Sete Cidades) เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบตรงปล่องภูเขาไฟใน São Miguel เกาะที่ใหญ่ที่สุดในอะโซร์ส รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบ และเนินเขา ยิ่งถ้าได้มาเที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมก็จะได้พบกับ ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) สีสวยท่ามกลางทิวทัศน์ของขุนเขา งดงามอลังการมากๆ
11. Algarve
Algarve ภูมิภาคหนึ่งที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโปรตุเกส เป็นที่ตั้งของเมืองสวยริมทะเลมากมาย โดยเฉพาะ Lagos ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของชายหาด และสถาปัตยกรรมที่ภายในเขตเมืองเก่า ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Praia do Camilo ชายหาดเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยผาหินสูงใหญ่รูปทรงแปลกตา ตัดกับน้ำทะเลสีมรกตอย่างลงตัว ไหนๆ ก็มาแล้ว ลงไปเดินเล่นบนหาดทรายนุ่มๆ สัมผัสน้ำทะเลใสๆ ให้สดชื่นสักหน่อยก็ดีนะคะ
12. อิบิซา Ibiza
เกาะอิบิซ่า (Ibiza) เป็นส่วนหนึ่งของ หมู่เกาะBalearic Islands ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ สเปน (Spain) ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีน้ำทะเลสีสวย และหาดทรายที่เหมาะกับการไปอาบแดด และนั่งชมอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก แถมยังเป็นสวรรค์ของนักปาร์ตี้ริมหาดทั้งหลายด้วย บรรยากาศดีๆ แบบนี้ เหมาะกับการไปชิลในช่วงหน้าร้อนสุดๆ ค่ะ
13. คอร์นวอล Cornwall
คอร์นวอล (Cornwall) แคว้นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อังกฤษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Land’s End จุดสิ้นสุดของแผ่นดินอังกฤษนั่นเองค่ะ มาถึงคอร์นวอลแล้ว ก็ต้องไปแวะ Penzance เมืองท่าของแคว้นที่มีทั้งหมู่บ้านชาวประมง และสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ไปชม จากนั้นก็ไปชมทิวทัศน์สุดอลังการของพระอารามเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-11 บนยอดเขา St Michael’s Mount ใน Mount’s Bay โอบล้อมไปด้วยท้องทะเลอันกว้างใหญ่ และจะงดงามที่สุดในยามเย็นช่วงอาทิตย์ใกล้ตกดินค่ะ เป็นภาพที่งดงามราวกับภาพฝันจริงๆ
14. เกาะสกาย Isle of Skye
หลีกหนีจากความวุ่นวายไปอ้าแขนรับธรรมชาติที่ เกาะสกาย (Isle of Skye) สกอตแลนด์ (Scotland) กันค่ะ เหมาะกับคนรักธรรมชาติและความเงียบสงบมากๆ มองออกไปก็จะเห็นทุ่งกว้างปกคลุมไปตามทิวเขา และหน้าผาอันสูงใหญ่อย่าง The Storr และ Quiraing เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักผจญภัยที่ชอบปีนเขาเลยก็ว่าได้ แถมยังสามารถเก็บภาพแลนด์สเคปสวยๆ กลับมาได้เยอะเลยด้วย บนเกาะสกายไม่ได้มีเพียงเนินเขาและท้องทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าแก่อย่าง Dunvegan Castle และ Armadale Castle ด้วย วิวสวยอลังการสุดๆ
15. Kourion
เขยิบมาแถบตะวันออกกลางนิดนึงค่ะ ถ้าถามถึงประเทศฝั่งทะเลเมดิเตอเรียนที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ยังไงก็พลาด ไซปรัส (Cyprus) ไปไม่ได้ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Kourion แหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ริมอ่าว Episkopi Bay ใกล้ๆ กับเมือง Limassol ที่มีซากปรักหักพังของอารยธรรมโรมัน ไม่ว่าจะเป็น พระอาราม โรงอาบน้ำโบราณ โรงละคร และบ้านเรือนต่างๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 นับเป็นแหล่งโบราณคดี และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในไซปรัส แถมยังได้ชมวิวสวยๆ ของน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์เป็นฉากหลังด้วย